ออริจิ้น ขานรับมาตรการปลดล็อก LTV ยกทัพ 18 คอนโดพร้อมอยู่และพรีเซล จัดแคมเปญ “11.11 คอนโดบุฟเฟ่ต์เลือกได้ไม่อั้น” กู้เต็ม 100% พร้อมรับเพิ่มแบบเต็มเหนี่ยว ไม่ต้องมีเงินก้อนก็ซื้อคอนโดได้ เริ่ม 1.49 ลบ.*

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ชี้ตลาดอสังหาฯ ปลายปี 64 ส่งสัญญาณคึก ขานรับมาตรการปลดล็อก LTV ยกทัพคอนโดพร้อมอยู่และพรีเซล บนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ และอีอีซีมากถึง 18 โครงการ จัดโปรแบบต่อเนื่อง ในแคมเปญ “11.11 คอนโดบุฟเฟ่ต์เลือกได้ไม่อั้น” บริการสินเชื่อกู้เต็ม 100% ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,000 บาท/เดือน* ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน แถมเฟอร์ฯ และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบจัดเต็ม พร้อมด้วยโปรสุดพิเศษ “11.11” มาให้ช้อปในราคา HOT DEAL SALE ผ่านไลฟ์สด วันที่ 11 พ.ย.นี้ ในรายการ “คอนโดหน้าไลฟ์”

นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ผู้พัฒนาโครงการกลุ่มสมาร์ทคอนโดมิเนียมในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI กล่าวว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศปรับเพดานสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ของสัญญาซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 เป็นต้นไป จากเดิม 70-90% เป็น 100% ขณะที่ในสัญญาซื้อหลังแรกยังคงเดิมอยู่ที่ 100% พร้อมให้เงินกู้เพิ่มอีก 10% เพื่อใช้ในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ (รวม 110% ของมูลค่าหลักประกัน) โดยมีผลบังคับใช้ในสัญญาเงินกู้ตั้งแต่ 20 ต.ค. 2564 ถึง 31 ธ.ค. 2565 นั้น เป็นการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงปลายปีได้เป็นอย่างดี

“จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มองหาที่อยู่อาศัยหลังที่สองเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับการใช้ชีวิต ดังนั้นการปลดล็อก LTV ในครั้งนี้ถือเป็นข่าวดีของทั้งผู้ซื้อและผู้ประกอบการ ที่จะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง โดยผู้ซื้อสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการเองก็สามารถบริหารจัดการสินค้าในสต๊อกได้ดีขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ยิ่งทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น บริษัทจึงได้จัดโปรโมชั่นพิเศษในแคมเปญ “11.11 คอนโดบุฟเฟ่ต์เลือกได้ไม่อั้น” ให้กับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในช่วงปลายปี”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

สำหรับแคมเปญ “11.11 คอนโดบุฟเฟ่ต์เลือกได้ไม่อั้น” จะเป็นการนำคอนโดพร้อมอยู่และพรีเซลล์บนทำเลศักยภาพ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและอีอีซีจำนวน 18 โครงการ อาทิ ไนท์บริดจ์ สกาย ริเวอร์ โอเชี่ยน, ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105, นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง, ออริจิ้น ปลั๊ก&เพลย์ รามคำแหง ทริปเปิ้ล สเตชั่น เป็นต้น ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาท ส่วนลดและของแถมกว่า 1 ล้านบาท พร้อมมอบสิทธิพิเศษด้านสินเชื่อกู้ได้ 100% ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,000 บาท/เดือน* (*เงื่อนไขการขอสินเชื่อและอัตราการผ่อนเป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคาร) และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ฟรี!ทุกค่าใช้จ่ายวันโอน และฟรี!เฟอร์นิเจอร์พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกยุนิต สำหรับลูกค้าที่จองภายในไลฟ์วันที่ 11 พ.ย.นี้

นอกจากนี้ยังมี มหกรรมคอนโดออนไลน์ต้อนรับเทศกาลส่งท้ายปี 11.11 โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 11 พ.ย. นี้ เวลา 13.00-18.00 น. ผ่านช่องทาง Facebook Fanpage และ Youtube Channel ของ Origin Property ในรายการ “คอนโดหน้าไลฟ์” ภายในช่วงเวลาไลฟ์สด 5 ชั่วโมง จะได้พบกับโครงการคอนโดมิเนียมทั้ง 18 โครงการ จากหลากหลายแบรนด์ อาทิ ดิ ออริจิ้น (The Origin) ,ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), เคนซิงตัน (Kensington) ,น็อตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill) , บริกซ์ตัน (Brixton) กว่า 50 ยูนิต ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะในไลฟ์เท่านั้น เช่น ส่วนลด Top up จากราคาปกติ, ของแถมแบบบุฟเฟ่ต์สูงสุด 11 รายการ พิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองภายในไลฟ์ รับเพิ่ม บัตร Gift Voucher ส่วนลด บุฟเฟ่ต์ชาบูร้านดัง You and I มูลค่า 2,000 บาท โดยเงื่อนไขเป็นไปตามแต่ละโครงการกำหนด ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 11 พ.ย. 2564

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า โครงการภายใต้การพัฒนาของ ออริจิ้น คอนโดมิเนียม สามารถสร้างยอดขายได้เป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา และการจัดโปรโมชั่น “ORIGIN 100%” และ “11.11” จะเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญช่วยสร้างยอดขายใหม่ในช่วงโค้งสุดท้าย หนุนภาพรวมยอดขายทั้งปีสร้างสถิติใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (All Time High) ที่ 29,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ และเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯช่วงไตรมาส 4/64 ได้เป็นอย่างดี

สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่เข้าร่วมแคมเปญ “บุฟเฟ่ต์คอนโด” ทั้ง 18 โครงการ ประกอบด้วย
โครงการพร้อมอยู่

  • ไนท์บริดจ์ สกาย ริเวอร์ โอเชี่ยน เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
  • บี ลอฟท์ ไลท์ สุขุมวิท 115 เริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
  • บี ลอฟท์ ไลท์สุขุมวิท 107 เริ่มต้น 2.09 ล้านบาท
  • บริกซ์ตัน เพ็ทแอนด์เพลย์ สุขุมวิท 107 เริ่มต้น 2.2 ล้านบาท
  • ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107 เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
  • ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105 เริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • ดิ ออริจิ้น พหลฯ-สะพานใหม่ เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
  • ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น เริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
  • ดิ ออริจิ้น รัชดา-ลาดพร้าว เริ่มต้น 3.29 ล้านบาท
  • ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ เริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
  • เคนซิงตัน สุขุมวิท - เทพารักษ์เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
  • ไนท์บริดจ์ ดิ โอเชี่ยน ศรีราชา เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
  • เคนชิงตัน ระยอง เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
  • นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง เริ่มต้น 2.09 ล้านบาท

โครงการพรีเซล

  • ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
  • ดิ ออริจิ้น อี 22 สเตชั่น สุขุมวิท – สายลวด สเตชั่น เริ่มต้น 1.49 ล้านบาท
  • ออริจิ้น ปลั๊ก&เพลย์ รามคำแหง ทริปเปิ้ล สเตชั่น เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
  • ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช เริ่มต้น 1.79 ล้านบาท


ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107


ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107


ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105


ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105 

 

บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด เป็นบริษัทที่พัฒนาโครงการกลุ่มสมาร์ท คอนโดมิเนียม ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีแบรนด์หลักภายใต้การดูแลได้แก่ ดิ ออริจิ้น (The Origin) เน้นเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) และกลุ่มที่เพิ่งซื้อคอนโดมิเนียมหลังแรก (First Condo Buyer) อายุประมาณ 23-28 ปี บริกซ์ตัน (Brixton) สำหรับตลาดเฉพาะกลุ่ม (Affordable Niche) โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 โครงการกลุ่มสมาร์ทคอนโดมิเนียม เปิดตัวสะสมมาแล้วจำนวนทั้งสิ้น 48 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 42,500 ล้านบาท และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จนทำให้หลายโครงการสามารถ Sold Out 100% ได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย
1. ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 86 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2564) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 137,000 ล้านบาท
2. ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ฯลฯ เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร